ธนาคารโลกได้รายงานผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2015 ) ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก จากทั้งหมด 189 ประเทศ ปรับขึ้นจากลำดับที่ 28 ในปี 2557 และเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียนรองจากสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับ 1และมาเลเซียที่อยู่ในอันดับที่ 18
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ร่วมกับธนาคารโลกประจำประเทศไทย จัดประชุมเพื่อรับฟังรายงานผลการวิจัยประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ ประจำปี 2557 หรือ Doing Business 2015 ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 26 จาก 189 ประเทศทั่วโลก โดยนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายอูริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทย นายคอนสแตนติน ชิโคซี่ ผู้จัดการด้านการปฏิบัติการโครงการ ธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย และ ดร. กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. กล่าวว่า “การจัดอันดับ Doing Business 2015 ของธนาคารโลกในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงใน 2 เรื่องหลัก ที่มีผลต่ออันดับ คือ เปลี่ยนการวัดเป็นแบบ Distance to frontier (DTF) หรือ พิจารณาจากระยะห่างของผลการพัฒนาประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของหน่วยงานรัฐในแต่ละตัวชี้วัดย่อยเทียบกับประเทศที่ดำเนินการดีที่สุด ( Best Practices) และการปรับขอบเขตการวัดใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการได้รับสินเชื่อ ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน และด้านการแก้ปัญหาการล้มละลาย ซึ่งมีหลายด้านที่ไทยพัฒนาใกล้เคียงกับประเทศที่ดำเนินการดีที่สุด อาทิ การขอใช้ไฟฟ้า และการขออนุญาตก่อสร้าง ที่มีการใช้กระบวนการอนุมัติแบบช่องทางพิเศษสำหรับการก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก ส่วนด้านที่ยังคงต้องเร่งพัฒนาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมายและกฎระเบียบ อาทิ การได้รับสินเชื่อ การแก้ปัญหาการล้มละลาย และการคุ้มครองผู้ลงทุน”
สำหรับสำนักงาน ก.พ.ร. มีแผนจะดำเนินการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โดยร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พัฒนาระบบงานบริการภาครัฐให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงขั้นตอนการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ผ่านช่องทางที่เรียกว่า Thailand Gateway เพื่อให้ประชาชนสามารถรับบริการงานภาครัฐได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจด้วย
ผลการจัดอันดับที่ดีขึ้นในปีนี้ ยืนยันได้ว่าหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง เช่น การขออนุญาตก่อสร้างที่กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งได้ปรับปรุงการให้บริการโดยมอบอำนาจให้สำนักงานเขตอนุญาตการก่อสร้างตึกขนาดเล็กที่มีความสูงตั้งแต่ 8 ชั้นลงมา จากเดิมให้เพียง 4 ชั้นลงมา หรือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทข้ามเขต ณ ศูนย์บริการของกรมแห่งใดก็ได้ทั่วประเทศ เป็นต้น รวมทั้ง รัฐบาลยังได้มีนโยบายจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทย เช่น การขยายนโยบายลดค่าธรรมเนียมการโอนทรัพย์สินจากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 20 เป็นต้น
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ
ทั้งหมด 10 รายการ | 1 / 1 |