วิสัยทัศน์ เสาหลักทางการคลังและเศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พันธกิจหรือหน้าที่ตามกฎหมาย 1. เสนอแนะและกำหนดนโยบายการคลังและระบบการเงิน 2. เสนอแนะและกำหนดนโยบายภาษี และบริหารการจัดเก็บภาษี 3. เสนอแนะและกำหนดนโยบายรายจ่ายและหนี้สาธารณะ บริหารรายรับรายจ่ายและหนี้สาธารณะ และบริหารพัสดุภาครัฐ 4. บริหารที่ราชพัสดุ เหรียญกษาปณ์ รัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่น ๆ ของรัฐ เป้าประสงค์หลัก เป้าหมายที่ 1 การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ (Narrowing Inequality Gap) 1. การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนฐานราก 2. การขยายระบบสวัสดิการพื้นฐานให้ทั่วถึงและมีคุณภาพ 3. การกระจายรายได้และการถือครองทรัพย์สินอย่างเป็นธรรม เป้าหมายที่ 2 การสนับสนุนศักยภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (Enhancing Competitiveness) 1. การสนับสนุนการจัดตั้ง ธุรกิจ การพัฒนาภาคเอกชน ให้เกิดการสร้างมูลค่า (Value Creation) 2. การเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจระดับภูมิภาคและ ระดับโลก 3. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เป้าหมายที่ 3 การรักษาความยั่งยืนทางการคลัง (Ensuring Fiscal Sustainability) 1. การเสริมสร้างความมั่นคงทางการคลัง 2. การส่งเสริมความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ (Anti-Corruption) 3. การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกระทรวงการคลัง หน่วยงานในสังกัด
สถานที่ติดต่อ ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 02-273-9021 โทรสาร 02-273-9408 http://www.mof.go.th slink@mof.go.th อำนาจหน้าที่ กระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินการคลังแผ่นดิน การประเมินราคาทรัพย์สิน การบริหารพัสดุภาครัฐ กิจการเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ทรัพย์สินของแผ่นดิน ภาษีอากร การรัษฎากร กิจการหารายได้ที่รัฐมีอำนาจได้แต่ผู้เดียวตามกฎหมายและไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการอื่น การบริหารหนี้สาธารณะ การบริหารและพัฒนารัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ และราชการอื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลังหรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวงการคลัง |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
การตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการตรวจราชการ พ.ศ. 2548 |
1.ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ควรจัดให้มีการตรวจราชการแบบบูรณาการร่วมกับผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ และผู้ตรวจราชการกรมสรรพากร อย่างน้อยปีละ 1 โครงการ/เรื่อง 2. ผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์และผู้ตรวจราชการกรมสรรพากร ควรจัดให้มีการประสานร่วมมือ/ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นกับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดของกรมตนเอง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้หน่วยงานปฏิบัติงานได้บรรลุภารกิจเป้าหมายที่กำหนด 3. ผู้บริหารกรมสรรพกร ควรทบทวนบทบาทภารกิจหน้าที่และจัดแบ่งงานให้ชัดเจน มิให้เกิดการตรวจที่ซ้ำซ้อน 4. ผู้บริหารของกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ และกรมสรรพากร ควรพิจารณาให้การสนับสนุนสำหรับการที่ผู้ตรวจราชการขอรับการสนับสนุนตามความเหมาะสม เพื่อให้ผู้ตรวจราชการในสังกัดฯ สามารถปฏิบัติงานตรวจได้อย่างเต็มศักยภาพ |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
กรมบัญชีกลางจัดให้มีโครงการประกันคุณภาพงานตรวจสอบภายในภาครัฐ และกำหนดแนวทางการประกันฯ ปี 2555 ซึ่งจะมีการประเมินการประกันฯ โดยในเบื้องต้น หน่วยตรวจสอบภายในในสังกัดกระทรวงการคลังบางหน่วยได้มีการจัดทำกฎบัตรฉบับใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการประกันฯ |
หน่วยตรวจสอบภายในในสังกัดกระทรวงการคลังทุกแห่ง ควร เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการประเมินประกันคุณภาพฯ ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
ในภาพรวมผลการประเมินระดับความเหมาะสมของการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงฯ อยู่ในระดับดีมาก | การบริหารจัดการงานภายใต้การมีบุคลากรจำกัด จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ประสบการณ์ และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การบริหารจัดการงานของกระทรวงฯ ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามภารกิจประเด็นยุทธศาสตร์ และกระบวนงานหลักขององค์กร สามารถแก้ไขจุดอ่อนหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
1. ส่วนราชการสามารถรายงานผลตัวชี้วัดระดับกระทรวงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีความชำนาญในการจัดทำรายงานมาอย่างต่อเนื่อง 2. ตัวชี้วัดบางตัวของส่วนราชการเป็นภารกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ดังนั้น จึงมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
|
1.ส่วนราชการในสังกัดฯ ควรมีการติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินการเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง 2. ส่วนราชการในสังกัดฯ ควรระบุปัญหาอุปสรรค ในกรณีที่ตัวชี้วัดนั้นๆ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากสามารถนำไปปรับปรุงการดำเนินงานในปีงบประมาณถัดไปได้ |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555กระทรวงฯ มีการเบิกจ่ายในภาพรวมร้อยละ 98.90 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ร้อยละ 93.00) และมีการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนร้อยละ 58.99 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ร้อยละ 72.00) |
หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดฯ ควรกำกับดูแลให้มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในส่วนของรายจ่ายลงทุน ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนด สำหรับปัญหาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไม่ทันควร มีการวางระบบใหม่ในภาพรวมของภาคราชการซึ่งประกอบด้วย ระบบการตั้งงบประมาณประจำปี ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง และระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเบิกจ่ายภาครัฐในแต่ละปีเป็นไปตามผลการดำเนินงานจริงของหน่วยงาน |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
ข้อสังเกตในการดำเนินโครงการ ผลการดำเนินงาน กรมบัญชีกลางได้จัดให้มีโครงการที่สำคัญ 2 โครงการ ดังนี้ 1)
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำ GPP แบบ Bottom up สำหรับสำนักงานคลังจังหวัดการดำเนินโครงการสำเร็จลุล่วงเป็นไปตามแผน |
1. ผู้บริหารกรมบัญชีกลาง ควรให้ความสำคัญการจัดทำรายงาน GPP ให้เป็นปัจจุบันแบบปีต่อปี 2. ผู้บริหารกรมบัญชีกลาง ควรติดตามกำกับดูแลการปรับปรุงแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวทางฯ ที่กำหนด 3. ผู้บริหารกรมบัญชีกลาง ควรให้มีการพัฒนาการจัดทำรายงานฯ ที่อาจมีการปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอเป็นแบบรายกลุ่มสาขา/จัดทำในระดับประเทศด้วย อันจะทำให้ข้อมูลรายงานฯ เกิดประโยชน์เพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการขยายวงผู้ใช้รายงานฯ มากยิ่งขึ้นด้วย |
ข้อค้นพบ | ข้อเสนอแนะ |
ข้อสังเกตในการดำเนินโครงการ การดำเนินโครงการฯ ปรากฏ ผลสัมฤทธิ์ตามแผนฯ แต่ยังไม่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมงานได้ (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการให้กิจการของรัฐ พ.ศ. 2535) เนื่องจากต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขรายงานฯ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ |
เนื่องจากระยะเวลาในการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมกรอบระยะเวลาได้ ดังนั้น กรมธนารักษ์ ควรเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขรายงานฯ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ และประสานงานต่อไป |