Innovative Meeting
เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
ในภูมิภาคอาเซียน
|
เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับนานาชาติ ในหัวข้อเรื่อง Innovative Meeting on High Performance Public Management ณ โรงแรม แชงกรีลา กรุงเทพฯ โดยมี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน
|
|
|
การประชุมในครั้งนี้มีผู้แทนจากประเทศสมาชิก ASEAN+3 จำนวน 11 ประเทศ จากทั้งหมด 13 ประเทศมาเข้าร่วมประชุม ได้แก่ ประเทศบรูไน กัมพูชา อินโดนิเซีย ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน และเกาหลี
|
|
สำหรับวัตถุประสงค์ของการประชุมนั้น มุ่งเน้นในเรื่องการใช้ เครือข่าย (Networking) เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน ให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้จากภายนอกองค์กร ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ทำให้สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง
|
|
นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing) และกรณี ตัวอย่างที่เป็น best practice จากนานาประเทศด้วย เพื่อผลักดันให้ประเทศสมาชิก ASEAN+3 กลายเป็นสังคมแห่งฐานความรู้ และเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจภาครัฐ และความต้องการของประชาชน |
|
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับสภาพสังคม และสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้นานาประเทศต้องเตรียมพร้อม ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยนวัตกรรมใหม่ (Innovation) ในการพัฒนาองค์ความรู้ในมิติต่างๆ รวมทั้งการสร้างสรรค์ความคิดและวิทยาการสมัยใหม่ เพื่อนำมาปรับใช้กับการปฏิบัติราชการ และการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ อันจะนำไปสู่การเพิ่มขีดสมรรถนะในการแข่งขัน ของประเทศสมาชิก ASEAN+3 ในเวทีโลก
|
ในการนี้ ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ อาทิ ประเทศบรูไน อินโดนิเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย ได้ร่วมนำเสนอแนวความคิดใหม่ ที่แต่ละประเทศใช้ในการพัฒนาระบบราชการของตน สำหรับประเทศไทยนั้น ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้นำเสนอในหัวข้อ From Challenges to Changes: The Thai Public Sector Reform โดยได้หยิบยกการผสมผสานนวัตกรรม และแนวความคิดใหม่ในการพัฒนาระบบราชการใน 4 ยุทธศาสตร์หลัก (OPDC's Diamond) ได้แก่ |
|
|
|
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเชื่อมั่นว่า การประชุม Innovative Meeting on High Performance Public Management จะช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิก ASEAN+3 โดยประเทศสมาชิกที่มีความชำนาญเรื่องต่าง ๆ จะได้แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่ายในเรื่องการจัดการความรู้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการบริหารราชการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกันในกลุ่มประเทศสมาชิก ASEAN+3 ในการพัฒนามาตรฐานของระบบเครือข่ายความรู้ ที่ประกอบด้วยระบบข้อมูลความรู้ Software และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ Hardware ให้มีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานสากล
|
สำหรับก้าวต่อไปนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เตรียมการที่จะจัดการประชุมหารือในเรื่องดังกล่าว ในระดับรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งประเทศต่าง ๆ ได้ให้การตอบรับและความร่วมมือเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะเชื่อมโยง Website ของหน่วยงานในประเทศของตน เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาระบบราชการ ในอนาคตอันใกล้นี้ |