ก้าวต่อไปของ CMC
|
ที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน หรือที่เรารู้จักกัน
ในชื่อของ
CMC (Certified Management Consultant )เป็นผู้ที่เข้าร่วม "โครงการเสริมสร้างและ
พัฒนาศักยภาพที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรอง
คุณภาพ มาตรฐาน" และ
ผ่านการประเมินจากสถาบัน The British Institute of Management Consultancy ของ
ประเทศอังกฤษ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า UK IMC ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรอง
คุณภาพมาตรฐาน
|
เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวถึงการดำเนินการในขั้นต่อไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ |
|
1. จัดตั้งสถาบัน IMC Thailand
สถาบัน IMC Thailand (The Institute of Management Consultants of
Thailand) จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็น business และส่วนที่เป็น public
sector ซึ่งในส่วนที่เป็น public sector นี้ จะต้องอาศัย CMC ที่ผ่านการประเมิน
ในครั้งนี้ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา
งาน
นอกจากนี้ ในอนาคตได้มีความมุ่งหวังที่จะผลักดันเรื่อง Management Consultantให้เป็น
วิชาชีพมากขึ้น เช่นเดียวกับการมีวิชาชีพทางด้านบัญชี ที่มีการตรวจประเมิน และให้การรับรอง
|
2. การติดตามประเมินผลและพัฒนา CMC
ในระบบของ CMC นั้น ได้กำหนดให้ CMC ต้องมีการส่งผลงานที่เกี่ยวกับการเป็นที่
ปรึกษา เพื่อทำการประเมินให้ขึ้นไปสู่การเป็นที่ปรึกษาในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะ
ให้
CMC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารระดับกลางของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นงานที่
สำนักงาน ก.พ.ร. จะดำเนินการในปี 2549 นี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการพัฒนา
ขีดสมรรถนะของผู้บริหารระดับกลาง (High Impact Middle Management) โดยจัดฝึกอบรมให้กับผู้บริหาระดับกลางของส่วนราชการและจังหวัด (Executive Coaching) เพื่อให้เป็นผู้บริหารระดับกลางที่มีขีดสมรรถนะสูง
|
และในกระบวนการฝึกอบรมนี้เองที่ CMC จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากผู้บริหาร
ระดับกลางจะต้องมีผู้ที่คอยให้คำปรึกษา ดูแลในบางเรื่องที่จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทีมที่ปรึกษาจะคอยทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือ CMC นั่นเอง โดยจะมีการจัดทำเป็นโครงการ
เสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว
ก็จะเป็นการทำให้CMC มีผลงานที่จะส่งให้้ UK IMCเพื่อใช้ในการประเมินสำหรับการพิจารณา
เลื่อนระดับ
ต่อไป
|
3. การสร้างเครือข่าย CMC ในประเทศไทย
เนื่องจากในระยะต่อไป จะมีการขยายผลในเรื่องการเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพ
ที่ปรึกษาด้านการบริหาร ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้ประเทศไทยมี CMC เพิ่ม
มากขึ้น โดยจะต้องจัดทำหลักสูตรเพื่อสร้าง CMC ในรุ่นต่อ ๆ ไปโดยมี CMCที่ผ่านการประเมิน
แล้วทำหน้าที่เป็นผู้สอน หรือให้การอบรมและคำแนะนำต่าง ๆ รวมทั้งเป็นผู้ตรวจประเมินเพื่อ
คัดเลือกผู้ที่จะผ่านการทดสอบ ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพ
มาตรฐาน
(CMC) โดยผ่านทางสถาบัน IMC Thailand ซึ่งจะแตกต่างจาก 2 รุ่นที่ผ่านมาที่มี
ผู้ตรวจประเมินจาก UK IMC มาเป็นผู้ประเมิน
|
นอกจากนี้ ในการบริหารเครือข่าย CMC นั้น ยังจะมีการเปิดช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
กัน โดยผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ.ร. โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการในเรื่อง
ดังกล่าว
|
และเพื่อให้ CMC ได้มีการติดต่อประสานงาน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์์กันเป็นระยะ ๆ จึงได้กำหนดให้มีการจัดการประชุมเพื่อ
พบปะ CMC เป็นประจำทุกเดือน
โดย
ผลัด
เปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมในแต่ละเดือน ซึ่งล่าสุด การประชุม
ประจำ
เดือนธันวาคม 2548 ได้กำหนดให้จัดขึ้นที่กรมการแพทย์แผนไทย
ในวันที่ 30 ธันวาคม 2548
|
สำหรับ โครงการเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพที่ปรึกษาด้านการ บริหาร ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน นั้น สำนักงานก.พ.ร. ได้จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนา
และยกระดับมาตรฐานข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแนะนำ
แต่ละ่ส่วนราชการต่าง ๆ ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ที่ได้รับการรับรองคุณ
สมบัติจากสถาบันพัฒนาคุณภาพที่ปรึกษาระดับโลก และเป็นที่ยอมรับ
ในระดับสากล ซึ่งจะเป็น
การเพิ่มประสิทธิภาพการให้คำปรึกษาแก่ส่วนราชการโดยสถาบันที่
ี่ให้การรับรองดังกล่าว คือ
สถาบัน The British Institute of Management Consultancy ของประเทศอังกฤษ (UK IMC) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกและมีเกณฑ์ที่เป็น
มาตรฐาน
เดียวกันในการทดสอบและ
รับรองว่า ผู้ที่ผ่านการประเมินของสถาบันฯ เป็นผู้ที่มี
ศักยภาพและสามารถเป็นที่ปรึกษาที่มี
คุณภาพได้
|
ผู้ที่ผ่านการประเมินให้เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหาร ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน
ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 21 คน โดยได้รับการคัดเลือกมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สำนัก
งบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ
ราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.)
|