สวัสดีค่ะ  แม้ว่า เม.ย. ปีนี้
จะร้อนกว่าทุกปี e-newsletter
ก็ขอดับความร้อนของอุณหภูมิ
ด้วยเรื่องราวที่มีสาระอันมี
ประโยชน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ของสำนักงาน ก.พ.ร.
อย่างไรก็ตามเราก็ขอสนับสนุน
การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และ
สร้างสรรในทุกภาคส่วน และ
ขอเชิญทุกท่านที่ยังไม่ได้สมัคร
เป็นสมาชิกเครือข่ายร่วมคิด
ร่วมใจในการพัฒนาระบบราชการ
เพียงท่านคลิกเท่านั้นท่านจะเป็น
สมาชิกเครือข่ายทันทีค่ะ

 
e-news ย้อนหลัง

เยี่ยมชมสนามบิน
สุวรรณภูมิ

             ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องวิชาการ มาเป็นเรื่องเบา ๆ กันบ้างกับกิจกรรมศึกษาดูงานของชาวสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งล่าสุดสำนักงาน ก.พ.ร. ได้พาสมาชิกไปศึกษาดูงาน "โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ" บนถนนบางนา-ตราด กม.15 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

                                          

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศไทย  ซึ่งชื่อ “สุวรรณภูมิ” นั้น  มีความหมายว่า “แผ่นดินทอง” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารผู้โดยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2545



                                      
ทั้งนี้เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่่ของ ประเทศ ซึ่งที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริม และพัฒนาความเจริญ ด้านเศรษฐกิจสังคม การท่องเที่ยว และด้านอื่น ๆ รัฐบาลจึงได้ กำหนดให้การก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็น “วาระแห่งชาติ” โดยเป็นท่าอากาศยาน หลักของประเทศ และเป็น ศูนย์กลางการค้า และการคมนาคมของภูมิภาค เอเชียอาคเนย์

      ปัจจุบัน ท่าอากาศยานนานาชาติของไทยประกอบด้วย ท่าอากาศยานกรุงเทพ
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และ
ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง  5  แห่งนี้ ดำเนินการโดยบริษัทท่า
อากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
หรือ ทอท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม

                                 

      จากความหนาแน่นของเที่ยวบินจำนวน
ผู้โดยสาร      และปริมาณขนส่งสินค้าทาง
อากาศที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีทำให้ท่าอากาศ
ยานดังกล่าวต้องรับบทหนัก  เพื่อให้บริการ
อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ต้องมีการพัฒนา
ท่าอากาศยานแห่งใหม่ขึ้นมาด้วยแนวคิดที่
จะให้เป็นห้องรับแขกที่ใหญ่โต   โอ่อ่า
ปลอดภัย สวยงาม และพรั่งพร้อมไปด้วย
ความสะดวก  สบายมากที่สุดของภูมิภาคนี้ ซึ่งก็คือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  นั่นเอง

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้กำหนด ยุทธศาสตร์ให้ท่าอากาศยาน ในความดูแล รับผิดชอบ มีบทบาท ในการ พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไปในทิศทาง เดียวกัน อย่างมีเอกภาพโดย...
  
ท่าอากาศยานกรุงเทพ จะเป็นที่ตั้งของศูนย์ซ่อมอากาศยาน ศูนย์ฝึกอบรม สถาบันการบินพลเรือน ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์ระดับ 5 ดาวของคนไทย และเป็นพื้นที่ให้บริการของบริษัทสายการบินราคาประหยัด


ท่าอากาศยานเชียงใหม่
จะเป็น Cultural Hub ของอินโดจีน เนื่องจากเป็น ศูนย์รวมของแหล่งวัฒนธรรม 3 ชาติ คือ พม่า ลาว และไทย และยังสามารถ เดินทางต่อไปยังประเทศพม่าและลาวได้สะดวกอีกด้วย


ท่าอากาศยานเชียงราย
จะเป็น Land Journey เข้าสู่ประเทศพม่า จีนตอนใต้ และ
เวียดนาม โดยทางรถยนต์

ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะเป็น Express Way ในการทำธุรกิจรถยนต์ ให้บริการเพื่อการเดินทาง ไปสู่มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน พร้อมทั้งสร้างบริการ การเดินทางแบบ One Stop Service Center ทั้งการเดินทางโดยเครื่องบิน รถยนต์ และรถไฟ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวก ให้นักเดินทางมากขึ้น

ท่าอากาศยานภูเก็ต จะเป็น Tourism Hub ของเอเชีย เนื่องจากเป็นจุดท่องเที่ยว ชั้นนำของโลก สามารถเชื่อมเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลอื่น ๆ รวมทั้ง
เชื่อมไปสู่ประเทศพม่า ด้านฝั่งอันดามันอีกด้วย


   

และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะเป็น Commercial Hub ของเอเชียหรือศูนย์กลาง การบินที่ใหญ่ที่สุด ที่จะนำผู้โดยสารและนักธุรกิจที่ต้องการติดต่อการค้าเดินทาง สู่เอเชีย
                  
       ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งอยู่บนพื้นที่ี่ขนาด 20,000 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา -  ตราด กม.15 อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ มีเส้นทาง เข้า ออก 5 เส้นทางรวมทั้งระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน วิ่งจากมักกะสัน และพญาไทตรงสู่อาคารผู้โดยสาร ที่ในขณะนี้กำลังอยูู่่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งจะทำให้
้การเดินทางโดยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนดังกล่าว จากกรุงเทพมหานคร           ไปยังท่าอากาศยาน
สุวรรณภูมิ ใช้เวลา เพียง 15 - 30 นาทีเท่านั้น


อาคารผู้โดยสาร

            เป็นอาคารเดี่ยวขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอย 563,000 ตารางเมตร ประกอบ ด้วย อาคารที่พักผู้โดยสารสูง 7 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน และอาคารเทียบเครื่องบินสูง 4 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน พรั่งพร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุด
ในโลก โดยจะให้บริการทั้งผู้โดยสารภายในประเทศ และระหว่างประเทศในอาคาร หลังเดียวกันนี้ สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งมากกว่า ศักยภาพอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานทั้ง 5 แห่งรวมกัน และสามารถ ขยายได้ถึง 100 ล้านคนต่อปี   โครงสร้างของอาคารประกอบด้วยเหล็กผนังและ หลังคาเป็นกระจกซึ่งจะทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านเข้าไปในตัวอาคารได้ ในเวลากลางวัน ทำให้ใช้แสงไฟน้อย ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ สำหรับ การตกแต่ง ภายในนั้น จะเน้นให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย

                 


พื้นที่บริการขนถ่ายสินค้า

            มีพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้กว่า 3 ล้านตันต่อปี      และสามารถขยายได้ถึง 6.4 ล้านตัน พร้อมระบบปลอดพิธีการ ศุลากรที่จะอำนวยความสะดวกสูงสุดในการขนส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง

อาคารจอดรถและที่จอดโดยรอบ

            ประกอบด้วยอาคารจอดรถ 2 อาคาร และลานจอดรถโดยรอบ ซึ่งเมื่อ พัฒนาเต็มที่จะสามารถรองรับรถได้กว่า 15,000 คัน




บริการการบิน

         ในด้านบริการการบินนั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรองรับเที่ยวบิน ได้ถึงชั่วโมงละ 76 เที่ยวบิน มีทางวิ่ง ขนาด 3,700 เมตร และ 4,000 เมตร อยู่ขนานกันที่ระยะ 2,200 เมตรซึ่งทำให้เครื่องบิน สามารถบินขึ้น และลงในเวลา เดียวกันได้ อย่างปลอดภัย มีหลุมจอด เครื่องบิน 120 หลุมจอด พร้อมหอบังคับ การบินที่สูงที่สุดในโลก ถึง 132 เมตร พร้อมระบบนำร่องทางอากาศที่ทันสมัย

                                                           

        ภายในท่าอากาศยานยังพรั่งพร้อมไปด้วยระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวย ความสะดวกครบครัน ทั้งร้านค้า โรงแรม ศูนย์ธุรกิจ ศูนย์รถเช่า ศูนย์ขนส่ง สาธารณะ อาคารระบบบริหารสารสนเทศ สถานีแปลงไฟฟ้าย่อย ระบบป้องกัน
น้ำท่วม ระบบน้ำประปา โรงบำบัดน้ำเสีย ฯลฯ ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณท่าอากาศ ยานสนามบินสุวรรณภูมิเป็นมหานครแห่งการดำเนินธุรกิจท่าอากาศยานและการบิน



ปัจจุบัน โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความคืบหน้ากว่า 90% แล้ว และพร้อมที่จะเปิดให้บริการกลางปี 2549 นี้